ช่วงนี้คงไม่มีข่าวใดที่จะฮิตเท่ากับเรื่องราวของน้ำท่วมอีกแล้ว หลายจังหวัดทางภาคเหนือรับผลกระทบนี้อย่างหนัก อย่างไรแล้วก็ขอส่งแรงใจไปช่วยให้สู้ต่ออุปสรรคใดๆทั้งสิ้นทั้งปวงครับ
ส่วนตัวผมเองอยู่เขตปริมณฑลซึ่งมีพื้นที่ติดกับแม่น้ำท่าจีน ซึ่งแม่น้ำสายนี้จะรับน้ำจากสุพรรณบุรีและกทม.บ้างหากสูบออกจากแม่น้ำเจ้าพระยา น้ำจากที่ดังกล่าวยังไม่น่ากลัวเท่าไหร่อาจจะพอรับไหว แต่น้ำที่มาจากการขึ้นลงของน้ำทะเลนี่สิครับ มันจะส่งผลให้เขตที่ผมอยู่มีปัญหาหนัก เมื่อวานก่อนได้คุยกับชลประทานเขาบอกว่าปีนี้น้ำจะสูงกว่าปีที่แล้วสิบห้าเซนติเมตร หากเป็นเช่นนั้นจริงฟันธงไปได้เลยว่า พินาศหมดแน่นอนเพราะปีที่แล้วสูงกว่าทุกปี
แต่สิ่งที่ดีใจอยู่ว่า เราได้ทำแผนงานการป้องกันน้ำท่วมเอาไว้ เพื่อรับมือกับน้ำที่จะมาดังกล่าวไว้ อย่างน้อยก็พอทุ่นแรงไปได้บ้าง ต้องยอมรับครับว่า การช่วยพี่น้องชาวบ้านนี่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะพวกเขาหวังพึ่งพิงจากหน่วยงานท้องถิ่นเป็นอย่างยิ่ง หากเราพากันนิ่งเฉยไม่ร้อนเนื้อร้อนตัวที่จะช่วยเหลือพวกเขาแล้ว ชาวบ้านเขาจะผิดหวังอย่างยิ่ง
สามสี่วันที่ผ่านมา ต้องลงมือไปช่วยกับทีมงานในหน่วยงาน ไปกรอกกระสอบทราย สร้างแนวกั้นน้ำ ซ่อมแซมผนังกั้นน้ำที่มีอยู่โดยไม่มีค่าจ้างใดๆ คิดเพียงแต่ว่าทำให้ดีที่สุดเพื่อประโยชน์สูงสุดของท้องถิ่นที่เราอยู่
อีกอย่าง...การตั้งงบประมาณเพื่อเบิกจ่ายกับการช่วยเหลือชาวบ้าน ยังมีปัญหาให้ฉุดคิดไปว่า ช่วยเหลือชาวบ้านและทำอย่างไรการเบิกจ่ายจะเป็นไปตามระเบียบของการใช้เงิน บางครั้งการทำเรื่องที่ถูกต้องแต่กลับไปขัดกับระเบียบกฎหมายอันนี้ก็ต้องมาจับเข่าคุยกัน เพื่อหาข้อสรุปให้จงได้
ก็เป็นอีกภาระหนึ่งกับการทำงานในท้องถิ่น ที่ไม่มีในตำราของการเรียน บางครั้งปัญหาต้องอาศัยประสบการณ์ จะช้าจะเร็วมิอาจหยั่งรู้ได้ ท้ายนี้ก็ขอเป็นแรงใจให้เพื่อนๆได้สู้ต่อไปตราบลมหายใจยังไม่สิ้นครับ...
ส่วนตัวผมเองอยู่เขตปริมณฑลซึ่งมีพื้นที่ติดกับแม่น้ำท่าจีน ซึ่งแม่น้ำสายนี้จะรับน้ำจากสุพรรณบุรีและกทม.บ้างหากสูบออกจากแม่น้ำเจ้าพระยา น้ำจากที่ดังกล่าวยังไม่น่ากลัวเท่าไหร่อาจจะพอรับไหว แต่น้ำที่มาจากการขึ้นลงของน้ำทะเลนี่สิครับ มันจะส่งผลให้เขตที่ผมอยู่มีปัญหาหนัก เมื่อวานก่อนได้คุยกับชลประทานเขาบอกว่าปีนี้น้ำจะสูงกว่าปีที่แล้วสิบห้าเซนติเมตร หากเป็นเช่นนั้นจริงฟันธงไปได้เลยว่า พินาศหมดแน่นอนเพราะปีที่แล้วสูงกว่าทุกปี
แต่สิ่งที่ดีใจอยู่ว่า เราได้ทำแผนงานการป้องกันน้ำท่วมเอาไว้ เพื่อรับมือกับน้ำที่จะมาดังกล่าวไว้ อย่างน้อยก็พอทุ่นแรงไปได้บ้าง ต้องยอมรับครับว่า การช่วยพี่น้องชาวบ้านนี่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะพวกเขาหวังพึ่งพิงจากหน่วยงานท้องถิ่นเป็นอย่างยิ่ง หากเราพากันนิ่งเฉยไม่ร้อนเนื้อร้อนตัวที่จะช่วยเหลือพวกเขาแล้ว ชาวบ้านเขาจะผิดหวังอย่างยิ่ง
สามสี่วันที่ผ่านมา ต้องลงมือไปช่วยกับทีมงานในหน่วยงาน ไปกรอกกระสอบทราย สร้างแนวกั้นน้ำ ซ่อมแซมผนังกั้นน้ำที่มีอยู่โดยไม่มีค่าจ้างใดๆ คิดเพียงแต่ว่าทำให้ดีที่สุดเพื่อประโยชน์สูงสุดของท้องถิ่นที่เราอยู่
อีกอย่าง...การตั้งงบประมาณเพื่อเบิกจ่ายกับการช่วยเหลือชาวบ้าน ยังมีปัญหาให้ฉุดคิดไปว่า ช่วยเหลือชาวบ้านและทำอย่างไรการเบิกจ่ายจะเป็นไปตามระเบียบของการใช้เงิน บางครั้งการทำเรื่องที่ถูกต้องแต่กลับไปขัดกับระเบียบกฎหมายอันนี้ก็ต้องมาจับเข่าคุยกัน เพื่อหาข้อสรุปให้จงได้
ก็เป็นอีกภาระหนึ่งกับการทำงานในท้องถิ่น ที่ไม่มีในตำราของการเรียน บางครั้งปัญหาต้องอาศัยประสบการณ์ จะช้าจะเร็วมิอาจหยั่งรู้ได้ ท้ายนี้ก็ขอเป็นแรงใจให้เพื่อนๆได้สู้ต่อไปตราบลมหายใจยังไม่สิ้นครับ...
ความคิดเห็น